5 เทคนิคลดกลิ่นอับในบ้าน ให้อากาศกลับมาหอมสดชื่น

0 0

กลิ่นอับในบ้าน เป็นปัญหาโลกแตกของหลายๆ บ้าน บางทีก็หาต้นตอไม่เจอ แถมยังทำให้บ้านไม่น่าอยู่ รู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวกอีกด้วย วันนี้ “ตลาดนัดบ้านมือสอง” จะพามาทำความเข้าใจสาเหตุของกลิ่นอับ และแชร์ 5 เทคนิคลดกลิ่นอับในบ้าน ให้กลับมาหอมสดชื่น เหมือนบ้านใหม่กัน!
กลิ่นอับในบ้าน เกิดจากอะไร?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า กลิ่นอับมักเกิดจากความชื้นสะสม ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีของเชื้อราและแบคทีเรีย เจ้าพวกนี้แหละที่ปล่อยกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา โดยเฉพาะในบ้านที่มีอากาศร้อนชื้น ยิ่งเสี่ยงต่อปัญหากลิ่นอับเข้าไปใหญ่ นอกจากนั้นยังมีสาเหตุหลักๆ เช่น
•    การระบายอากาศไม่ดี บ้านที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ความชื้นจะสะสม ทำให้เกิดกลิ่นอับได้ง่าย
•    ความชื้นจากภายนอก ฝนตก น้ำรั่วซึม หรือความชื้นจากดิน ก็เป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นอับ
•    การทำความสะอาดไม่เพียงพอ คราบสกปรก ฝุ่นละออง เศษอาหาร ล้วนเป็นแหล่งอาหารของเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้เกิดกลิ่นอับได้
•    ตู้เสื้อผ้า รองเท้า และเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าที่ยังไม่แห้งสนิท รองเท้าที่ใส่แล้วไม่ได้ทำความสะอาด หรือเฟอร์นิเจอร์ที่โดนความชื้น ก็เป็นแหล่งสะสมกลิ่นอับได้เช่นกัน
กลิ่นอับ ส่งผลเสียอย่างไร?
นอกจากจะทำให้บ้านไม่น่าอยู่แล้ว กลิ่นอับยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราด้วย เช่น โรคภูมิแพ้ ที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรียในอากาศ ทำให้เกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล จาม และหายใจลำบาก โรคทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ และหอบหืด และสุขภาพจิต เนื่องจากบ้านที่มีกลิ่นอับ อาจทำให้รู้สึกอึดอัด เครียด และนอนไม่หลับ
5 เทคนิค วิธีกำจัดกลิ่นอับ คืนความสดชื่นให้บ้าน
รู้จักสาเหตุและผลกระทบกันไปแล้ว มาดู 5 เทคนิคง่ายๆ ลดกลิ่นอับในบ้าน กันดีกว่า
1.    เปิดหน้าต่างระบายอากาศ เป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลดี ควรเปิดหน้าต่างให้ลมพัดผ่านเข้าออก เพื่อระบายความชื้นและกลิ่นอับออกไป อย่างน้อยวันละ 30 นาที
2.    ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ กวาด ถู เช็ด ดูดฝุ่น กำจัดคราบสกปรก และเศษอาหาร เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราและแบคทีเรีย
3.    ใช้เบกกิ้งโซดา เบกกิ้งโซดาเป็นตัวช่วยที่ดี ในการดูดซับกลิ่นอับ ให้โรยเบกกิ้งโซดาไว้ในบริเวณที่มีกลิ่นอับ เช่น ตู้เสื้อผ้า รองเท้า พรม หรือโซฟา ทิ้งไว้สักพักแล้วดูดออก
4.    ใช้ถ่านกัมมันต์ (activated carbon) ถ่านกัมมันต์มีคุณสมบัติดูดซับกลิ่นได้ดีเยี่ยม วางถ่านกัมมันต์ไว้ในจุดต่างๆ ของบ้าน เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือห้องนอน เพื่อช่วยดูดซับกลิ่นอับ
5.    ใช้เครื่องฟอกอากาศ เครื่องฟอกอากาศช่วยกรองฝุ่นละออง เชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศ ทำให้บ้านมีอากาศที่สะอาดและสดชื่น
เคล็ดลับเพิ่มเติม
•    ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าม่าน เป็นประจำ เพื่อกำจัดไรฝุ่นและกลิ่นอับ
•    ตากผ้าให้แห้งสนิทก่อนนำไปเก็บ เพื่อป้องกันกลิ่นอับ
•    ทำความสะอาดห้องน้ำ ห้องครัว และบริเวณที่อับชื้น อย่างสม่ำเสมอ
เพียงเท่านี้ บ้านก็จะหมดปัญหา กลิ่นอับในบ้าน กลับมาสดชื่น น่าอยู่ และที่สำคัญสุขภาพของทุกคนในครอบครัวก็จะดีขึ้นด้วย อย่าลืมลองนำเทคนิคที่ “ตลาดนัดบ้านมือสอง” แชร์กันนี้ไปใช้กับบ้านของคุณดู

อ้างอิง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
 

Click icon to remove from or add to favorite list
Click to choose and click "Compare" button