CI จับมือ2พันธมิตรใหม่ ดันยอดขาย - ฐานลูกค้า

30 พ.ค. 2566 145 0

          นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และบริษัท ไอเอฟซีจี จำกัด นายหน้าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยทาง CI จะร่วมมือทั้ง 2 พันธมิตรธุรกิจในการขยายฐานลูกค้า โดยนำโครงการของ บริษัทขายผ่านโบรกเกอร์และเอเจนซี เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งลูกค้า รายย่อยและลูกค้ารายใหญ่

          โดยทาง วี บียอนด์ และ ไอเอฟซีจี มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว โดยที่ทางบริษัทได้ร่วมมือกับทั้ง 2 พันธมิตร ในการนำ โครงการของบริษัท ได้แก่ คอนโดมิเนียม บลู แซฟไฟร์ หัวหิน จำนวน 30-40 ยูนิต และโครงการ ดิ อิสสระ เชียงใหม่ จำนวน 100 ยูนิต ที่คัดสรรยูนิตที่ดีและมีคุณภาพมาขายให้กับลูกค้า ผ่านช่องทางของพันธมิตรทั้ง 2 ราย

          ดันยอดขาย 10%

          อย่างไรก็ดี การร่วมมือกับพันธมิตรทั้ง 2 ราย จะมีส่วนช่วยทำให้ยอดขายโครงการของบริษัทเพิ่มขึ้นได้ราว 10% และความร่วมมือกับทั้ง 2 องค์กรใน ครั้งนี้ จะทำให้เกิด Ecosystem ในวงการ อสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นประโยชน์ระหว่าง ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย ตลอดจนถึงผู้บริโภครายย่อย นอกจากนี้ยังเป็นการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจและเสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

          ด้าน นายวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ชาญอิสสระ เป็นผู้พัฒนา อสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียง ทำให้บริษัท มีความมั่นใจในการร่วมเป็นพันธมิตร เพื่อนำโครงการของชาญอิสสระมา นำเสนอและขายให้กับลูกค้าของ วี บียอนด์ ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทเอง ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยได้ในวงกว้าง และสามารถช่วยในด้านงานขายได้อย่างดี

          โดยผลตอบแทนที่บริษัทจะได้รับแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. ค่าคอมมิสชั่นจากการเป็นนายหน้าขาย อสังหาริมทรัพย์ ในช่วงโครงการอยู่ในช่วงพรีเซล ซึ่งมีการนำเสนอโครงการให้กับลูกค้าของ วี บียอนด์ 2. กำไรส่วนต่างจากราคาขาย ในส่วนของโครงการที่พร้อมอยู่ ซึ่งเป็นโครงการที่ วี บียอนด์ ซื้อเข้ามาขายต่อให้กับลูกค้าในแพลตฟอร์มของ วี บียอนด์ ทำให้การร่วมมือกับชาญอิสสระ สามารถร่วมกันทำงานในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการ เข้ามาซื้อด้วยเช่นกัน

          ขยายฐานลูกค้า

          นายวิทูร เลิศพนมวรรณ บริษัท ไอเอฟซีจี จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับชาญอิสสระ ถือว่าเป็นโอกาสในการที่ไอเอฟซีจีได้นำโครงการที่มีคุณภาพ มีชื่อเสียง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี มานำเสนอกับกลุ่มลูกค้านักลงทุนรายใหญ่ของไอเอฟซีจี ซึ่งปัจจุบันบริษัทไอเอฟซีจีมีฐานลูกค้ารายใหญ่ 50,000 ราย ซึ่งสัดส่วน 99.99% เป็นคนไทย และในปีนี้มีแผนเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติที่ราว 10% โดยที่การนำโครงการของชาญอิสสระ เข้ามาร่วมไนการขายนั้น จะช่วยในการสร้างผลตอบแทนให้กับไอเอฟซีจีได้ 7-8%

          ขณะเดียวกัน จากชื่อเสียงของ ชาญอิสสระในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยและโรงแรมในหัวหินและภูเก็ต จะช่วยให้ไอเอฟซีจี สามารถต่อยอดในการขยายฐานลูกค้าต่างชาติได้ ซึ่งเป็น เป้าหมายของไอเอฟซีจีที่ต้องการเพิ่มลูกค้าต่างชาติเข้ามา โดยจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าจีน รัสเซีย ญี่ปุ่น อังกฤษ และยุโรป เป็นต้น



      

 

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย