เปิดช่องต่างชาติเช่าที่ดินยาว

03 พ.ย. 2565 221 0

 

          ‘กฤษฎีกา’ เร่งฟังความเห็น - ‘สมคิด’ หนุนเช่า99ปี

          นายกฯ ถก “สุพัฒนพงษ์”  หาทางเคลียร์ปัญหา

          “กฤษฎีกา” ฟังความคิดเห็น ร่างกฎกระทรวงต่างชาติซื้อที่ดิน 1 ไร่ เตรียมสรุปข้อเสนอรายประเด็น แจงกฎหมายรัดกุมขึ้นเพราะต้องได้วีซ่าระยะยาวก่อน เผยไม่ปิดกั้นแนวทางเช่าระยะยาว นายกฯเรียก “สุพัฒนพงษ์-ชโยทิต” หาทางเคลียร์ปัญหา “สมคิด” แนะแก้ปมให้ต่างชาติเช่า 99 ปีบวกเงื่อนไขพัฒนาพื้นที่ ห่วงทุนต่างชาติฮุบที่อยู่คนไทย “หอการค้า” ศึกษาข้อเสนอรัฐบาล ชี้รัฐตั้งใจดีหาช่องดึงลงทุน

          การอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อที่ได้ 1 ไร่ แบบมีเงื่อนไขตามร่างกฎกระทรวงการได้มา ซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. .... ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงในสังคม ซึ่งทำให้ รัฐบาลต้องเร่งรับฟังความเห็นผู้ที่เกี่ยวข้อง และในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ ได้หารือประเด็นดังกล่าวด้วย

          นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยหลังการประชุม ครม.ว่า ขณะนี้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของ ครม.แล้ว และส่งมายังคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยตามขั้นตอนแล้วการพิจารณาตรวจแก้ร่างกฎกระทรวงในชั้นกฤษฎีกาจะนำเข้าคณะกรรมการกฤษฎีกา และนำขึ้นสู่เว็บไซต์กลางของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อรับฟังความคิดเห็น โดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน

          ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกานำร่างกฎกระทรวงกลับมาให้ ครม.พิจารณา อาจมีความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจครอบคลุมระยะเวลาการลงทุนสั้นไปหรือยาวไป เงินทุนมากไปหรือน้อยเกินไป ซึ่งขึ้นกับ ครม.จะตัดสิน และการที่ ครม.ต้องการปรับแก้ไขจุดใดเพิ่มเติมเป็นเรื่องของฝ่ายนโยบาย ด้านคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นเพียงฝ่ายปฏิบัติเท่านั้น

          “โดยปกติขั้นตอนรับฟังความคิดเห็น ถ้ามีคนไม่เห็นด้วยมาก เราก็จะมีหนังสือตอบเป็นข้อสังเกตมา และนำเข้าครม.อีกครั้งเพื่อให้ ครม.รับทราบ ส่วนรัฐบาลจะทำอย่างไรเป็นเรื่องของฝ่ายนโยบาย”

          นายปกรณ์ ตอบคำถามประเด็นความเป็นไปได้ในการปรับเงื่อนไขเป็นการเช่าแทนการซื้อเพราะมีการคัดค้านสูง ว่า ทำได้อยู่แล้วที่เรียกว่า ฟรีโฮล กับ รีทโฮล โดยฟรีโฮล คือ มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ส่วนรีทโฮล คือ เช่าระยะยาว ซึ่งตามกฎกระทรวงฉบับปัจจุบันสามารถทำได้เลย ภายใต้ประมวลแพ่ง และกฎหมายที่ดิน ไม่ต้องมีสิทธิ์ก็เช่าได้ ตราบใดที่เขามีสิทธิ์ที่จะอยู่ในราชอาณาจักรมาเช่าได้

          ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการออกกฎหมายฉบับนี้ผู้เสนอกฎหมายระบุว่าเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่มีการย้ายฐานการผลิตเนื่องจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จึงต้องการต่างชาติที่มีกำลังทรัพย์เข้ามา

          “การแก้กฎหมายนี้ต้องใช้เวลา แต่ระหว่างนี้ก็ใช้กฎหมายเก่าได้ แต่ปัญหาของกฎหมายเก่าเพราะกว้างเกณฑ์ไป แต่ฉบับใหม่ต้องการดึงดูดคนที่เป็นเป้าหมายจริงๆ เข้ามา” นายปกรณ์ กล่าว

          ชี้กฎกระทรวงเข้มงวดขึ้น

          ส่วนประเด็นการเปรียบเทียบระหว่างร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่กับกฎกระทรวงฉบับปัจจุบัน นายปกรณ์ กล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ ตรงกับวัตถุประสงค์มากขึ้นเพราะแต่เดิมกฎหมายนี้เขียนไว้อย่างกว้าง แต่ตอนนี้ต้องได้วีซ่าระยะยาว (LTR) ก่อน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะต้องเป็นการคัดกรองก่อนถึงจะยื่นขอซื้อที่ดินได้ ไม่ใช่ใครก็ได้เหมือนในอดีต และแม้จะมีการแก้กฎกระทรวงส่วนนี้ก็ไม่ใช่ทุกคนจะซื้อที่ดินเพราะวิธีคิดของต่างชาติและคนไทยต่างกัน

          “เราเอาวิธีคิดของคนไทย คือ เราต้องการกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ยกตัวอย่างเช่น เราซื้อคอนโด เรายังซื้อคอนโดเลยนะ ทั้งที่คอนโดใหญ่ๆ ร้อยๆ ห้อง รู้หรือไม่ว่ามีกรรมสิทธิ์ส่วนกลาง กรรมสิทธิ์ห้องชุด สมมุติตึกพังขึ้นมา จะแบ่งทรัพย์กันยังไง มันเล็กๆ หมด คนไทยชอบระบบกรรมสิทธิ์ ชอบเป็นเจ้าของ แต่ฝรั่งชอบเช่าระยะยาว ตราบใดที่เช่าระยะยาวได้ เขาอยู่กันจนตาย”

          ยืนยันรวมแปลงทำได้ยาก

          ในขณะที่ประเด็นการป้องกันการรวมเป็นที่ดินแปลงใหญ่ นายปกรณ์ กล่าวว่า การรวมที่ดินแปลงใหญ่ไม่มีอยู่แล้ว โดยที่มีคือเรื่องนอมินีทำไมไม่ไปไล่จับพวกนอมินี ที่ตอนนี้ทำกันอยู่น่ากลัวกว่าเยอะ ทำไมไม่จับ

          “กฎกระทรวงฉบับปี 2545 ที่มีผู้ขอใช้สิทธิเพียง 8 คน เพราะไม่ได้ดึงดูด จึงไปแอบตั้งบริษัท ไปหาภรรยาคนไทย หาสามีไทยและมาซื้อที่ดิน ควรเอาใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน และจำกัดสิทธิ์ ซึ่งที่ดินโอนไปไหนไม่ได้ ยกไปไหนไม่ได้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ต่างชาติซื้อ ปัญหาอยู่ที่แลนด์ลอร์ดคนไทย ถือที่ดินเป็นหมื่น ๆ พัน ๆ ไร่ ในสภาก็มี เศรษฐีก็ถือ ทำไมไม่กระจายให้เป็นธรรม ต้องจัดการที่ต้นเหตุ ทำอย่างไรให้คนที่มีอยู่เยอะมาก เป็นร้อย เป็นพันไร่ ให้กระจายออกมาข้างนอก ดีกว่าไม่เล่นคำว่าขายชาติ”

          รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เรียกนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องเศรษฐกิจ และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ขึ้นหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยคาดว่าหารือร่างกฎกระทรวงดังกล่าวที่ ครม.เห็นชอบให้มีการแก้ไขรายละเอียดของกฎกระทรวง และกลายเป็นวาทกรรมการขายชาติที่รัฐบาลถูกกล่าวหาอยู่ในปัจจุบัน

          ครม.สั่งเทียบต่างประเทศ

          นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ใน ครม.มีการหารือกันในประเด็นนี้ โดยต้องการให้มีการชี้แจงในรายละเอียดทุกอย่างโดยละเอียดว่าที่มาที่ไปของกฎหมายนี้มีที่มาอย่างไร มีการแก้ไขอย่างไร รวมทั้งเปรียบเทียบกับต่างประเทศด้วยว่ามีกฎหมายลักษณะเดียวกันอย่างไร

          ทั้งนี้ ครม.มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และคณะกรรมการกฤษฎีกา ช่วยออกมาชี้แจงในประเด็นนี้ด้วยว่ากฎกระทรวงนี้ออกมาเนื่องด้วยเหตุผลอะไรให้อธิบายตรงนี้ให้ชัดเจน

          หอการค้าศึกษาผลกระทบ

          นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อศึกษาผลดีผลเสียจากกรณีดังกล่าว โดยเบื้องต้นจะว่าจ้างสถาบันที่เชี่ยวชาญมาศึกษาผลกระทบผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นและสรุปผลการศึกษาได้ปลายปี 2565 และจากนั้นหอการค้าไทยจะเสนอรัฐบาลเพื่อให้พิจารณาต่อไป

          “นอกจากนี้ในการประชุมเอเปค ผมก็จะนำเรื่องนี้ขึ้นหารือกับสมาชิกเอเปค เพื่อรับฟังข้อมูลของแต่ละประเทศว่ามีกฎหมาย ระเบียบหรือแนวทางในเรื่องอย่างไร”

          ทั้งนี้ การที่ ครม.เห็นชอบในเรื่องนี้เห็นว่า การดำเนินการของรัฐบาลครั้งนี้มีความตั้งใจดี และมองว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2565 จะมีการชะลอตัว จำเป็นต้องดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศให้มากที่สุดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แล้วขยายโอกาสไปในพื้นที่อื่นมากขึ้น ซึ่งหอการค้าไทยรับรู้ถึงความตั้งใจของรัฐบาลแต่ก็ต้องศึกษาถึงผลกระทบ ผลดีที่จะเกิดขึ้นให้มีความชัดเจนด้วย

          “การที่มีคนมาพูดว่ารัฐบาลขายชาติส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ เพราะรัฐบาลก็มาจากการเลือกของประชาชน ได้การยอมรับจากประชาชน ก็เชื่อว่า จะทำประโยชน์หรือสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชน” นายสนั่น กล่าว

          “สมคิด” เสนอเช่า99ปี

          นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวระหว่างการลงพื้นที่เยาวราช ในกิจกรรม “คิด ถึง บ้าน” เพื่อพบปะประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงเดินทางเยี่ยมบ้านเกิดบริเวณถนนเยาวานิช ว่าในเรื่องนโยบายที่รัฐบาลแก้กฎกระทรวงเปิดให้ต่างชาติถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ ว่า ในเรื่องนี้ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ แต่ความคิดแบบนี้มีมานานหลาย 10 ปีแล้ว

          โดยทุกครั้งที่มีความคิดเหล่านี้ออกมาก็ต้องมีการต่อต้าน แต่ถ้าเป็นไปได้ส่วนตัวมองว่าควรพยายามรักษาไว้ให้ยาวที่สุดจะเป็นผลดีกว่า หรืออาจเปิดเป็นการให้เช่าระยะยาวแทนน่าจะมีความเหมาะสม เช่น การเช่าระยะเวลา 99 ปี พร้อมกับให้สิทธิประโยชน์พิเศษเพื่อส่งเสริม แต่ทั้งหมดนั้นต้องพ่วงด้วยเงื่อนไข คือ เมื่อมาเช่าแล้วต้องพัฒนาให้มีเงินกระจายลงไปในพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อช่วยเหลือคนตัวเล็กให้ได้ประโยชน์

          “ไม่ได้ต่อต้านเรื่องต่างชาติถือครองที่ดิน แต่เป็นเรื่องของนโยบายของแต่ละคน แต่ละพรรคที่มีความคิดเป็นของพรรค เพียงแต่ว่าจะทำอะไรก็ขอให้ทำด้วยความรอบคอบ พยายามปรึกษาชาวบ้านโดยรอบดูด้วย แต่พรรคสร้างอนาคตไทยยังไม่มีนโยบายอย่างนี้ เพราะนโยบายพรรคจะให้สิทธิประโยชน์พิเศษหลาย ๆ ด้าน เพื่อส่งเสริมนักลงทุนเข้ามา”

          แนะดูแลพื้นที่ “เยาวราช”

          นายสมคิด กล่าวว่า ในการลงพื้นที่เยาวราชครั้งนี้ได้หารือกับผู้ประกอบการในพื้นที่หลายคน ส่วนมากต้องการให้ช่วยพัฒนาระบบการขนส่งเชื่อมต่อมายังพื้นที่ท่องเที่ยวของถนนเยาวราช เพราะปัจจุบันคนที่จะมาเยาวราชจะพบปัญหาไม่มีที่จอดรถ ดังนั้นจึงเสนอว่าอาจต้องทำเป็นโซน เช่น พื้นที่จอดรถ พื้นที่ท่องเที่ยว และพื้นที่ถนนสายอาหาร โดยมีระบบการขนส่งรอง หรือ Feeder พาคนเข้ามาในพื้นที่

          ส่วนปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน มองว่า หลังจากเกิดการระบาดของโควิด-19 ก็ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจทุกประเทศมีปัญหา และจะส่งผลกระทบต่อคนตัวเล็ก และผู้มีรายได้น้อย ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลควรต้องหันมาให้ความสำคัญคือการช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น และเยียวยาให้ถูกจุด เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ต้องเร่งทำ

          ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการตัวเล็กนั้น ยืนยันว่าแม้ที่ผ่านมาจะได้ออกมาจากรัฐบาลแล้ว แต่ได้หารือกับสถาบันการเงินมาโดยตลอด ถึงแนวทางการช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของพรรคสร้างอนาคตไทย โดยการช่วยเหลือจะมีทั้งการสนับสนุนแหล่งเงินจากธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือใช้ช่องทางของมูลนิธิสัมมาชีพมาช่วยเหลือด้วย

 

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย