SPALI เดินหน้าลดคาร์บอน ร่วม SCG ชูนวัตกรรมสีเขียว

06 ก.ย. 2565 233 0

    SPALI ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25% ภายใน 3 ปี จับมือพันธมิตร SCG ผลักดันนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียวผ่านวัสดุก่อสร้างฉลากเอสซีจี กรีนชอยส์ ในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมทั่วประเทศกว่า 100 โครงการ รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2565 นี้อีก 34 โครงการ

          นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า บริษัทเป็น ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่อยู่อาศัย พร้อมแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน มาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การเข้าไปพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโดยคำถึงการออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม รอบโครงการ เช่น การอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ ในพื้นที่ให้เป็นร่มเงาจากธรรมชาติ รวมถึงการออกแบบบ้านและคอนโดมิเนียมภายใต้แนวคิด Green Design เน้นการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

          ตั้งเป้าลดคาร์บอน

          ซึ่งในปี 2565 นี้บริษัทมีการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25% ภายใน 3 ปี เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการลดก๊าซเรือนกระจก และเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก พร้อมร่วมกับพันธมิตรธุรกิจที่มีนโยบายดูแลสิ่งแวดล้อม อย่างเอสซีจี ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ที่เป็นพันธมิตรธุรกิจของบริษัทมาอย่างยาวนาน โดยมีนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการรับรองฉลากเอสซีจี กรีนชอยส์ เพื่อแสดงจุดยืนและความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

          ทั้งนี้ จากการเลือกใช้วัสดุที่ประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน ประหยัดทรัพยากรและยืดอายุการใช้งานของวัสดุในโครงการ บ้านและคอนโดมิเนียมของศุภาลัยทั่วประเทศกว่า 100 โครงการ รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2565 นี้จำนวน 34 โครงการ ทำให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมของศุภาลัย สามารถประหยัดค่าน้ำประปา เช่น การเลือกใช้ก๊อกน้ำและสุขภัณฑ์ คอตโต้ ช่วยลดการใช้น้ำในครัวเรือนได้ถึง 516,787,053 ลิตรต่อปี

          ร่วมมือพันธมิตร SCG

          นอกจากนี้ จากการเลือกใช้สินค้าที่ได้รับการรับรองฉลาก “SCG Green Choice” ยังมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตวัสดุ 564 ตัน เทียบเท่าปริมาณการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 47,000 ต้นภายใน 1 ปี ด้วยการใช้วัสดุคอนกรีตรักษ์โลก ซีแพค อิฐ มวลเบา คิวคอน และไม้เชิงชาย เอสซีจี ขณะที่กระเบื้องปูพื้นและบุผนัง เซรามิก กระเบื้องเกรซพอสเลน กระเบื้องโมเสก คอตโต้ ช่วยประหยัดน้ำจากการผลิตวัสดุ 7,650,132 ลิตร อีกทั้งฉนวนกันความร้อนเอสซีจี ทดแทนการใช้ทรายธรรมชาติ กระเบื้องหลังคาคอนกรีต เอสซีจี รุ่นซีแพค ทดแทนการใช้ปูนซีเมนต์ โครงหลังคาสำเร็จรูป เอสซีจี ประหยัดการใช้เหล็ก ทั้งนี้การใช้วัสดุต่างๆ ดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละโครงการของศุภาลัย

          สำหรับความร่วมมือของ 2 พันธมิตรรายใหญ่ ที่ดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิด การพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม หรือ ESG (Environmental, Social, Governance) ในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมก่อสร้างให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยให้เติบโตยั่งยืน ควบคู่กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมต่อไปในอนาคต รวมถึงช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ในด้านการอยู่อาศัยให้กับทุกคน

          เพิ่มสัดส่วนยอดขาย

          นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้าที่ได้รับการรับรองฉลาก SCG Green Choice (เอสซีจี กรีนชอยส์) ให้เป็น 2 ใน 3 ภายในปี 2573 และยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าและโซลูชันเพื่อตอบโจทย์การช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับการพัฒนาคุณภาพการใช้ชีวิตที่ดีกว่าให้กับทุกคนอย่างต่อเนื่อง



          

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย