ชิงเค้กคอนโดฯ ราคาต่ำกว่า1.2ล้านบาท รีเจ้นท์โฮม ลุยขึ้นโครงการวุฒากาศ

10 พ.ค. 2565 160 0

          “เจเนอเรชัน รุ่นที่ 2” ของกลุ่มรีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ ไม่หวั่น ศก.ซบเซาจากวิกฤตโควิด เดินหน้าผุดคอนโดในโครงการ “บ้านล้านหลัง” เปิดขาย “รีเจ้นท์ โฮม วุฒากาศ” ขึ้นโครงการที่ 2 จำนวน 3,098 ยูนิต ราคาเดียวทุกยูนิต 1.2 ลบ. พร้อมปรับดีไซน์ห้องชุดให้สอดคล้องกับดีมานด์คนรุ่นใหม่

          นางสาวปรารถนา อยู่ภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด “เจเนอเรชันรุ่นที่ 2” ที่ร่วมทำงานกับคุณพ่อ (นิรัตน์ อยู่ภักดี) ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบีโอไอมากว่า 30 ปี กล่าวถึงธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2565 ว่า ช่วงต้นปีบริษัทได้เปิดตัวคอนโดฯ โครงการใหม่ “รีเจ้นท์ โฮม บางนา” เป็นอาคารไฮไรส์สูง 32 ชั้น ทั้งหมด 4 อาคาร จำนวนห้องชุดรวม 5,000 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร (ตร.ม.) มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท โดยมีกลุ่มลูกค้าทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อลงทุนเข้ามาจับจองห้องชุดไปแล้วกว่า 60-70% ซึ่งสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในช่วงซบเซาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 และตลาดคอนโดฯที่อยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้ว

          ดังนั้น ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทพร้อมเปิดตัวคอนโดฯ ใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ คือ โครงการ รีเจ้นท์ โฮม วุฒากาศ มูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท พัฒนาเป็นคอนโดฯ ไฮไรส์ 2 อาคาร สูง 37 ชั้น จำนวน 1,933 ยูนิต และสูง 38 ชั้น จำนวน 1,165 ยูนิต รวม 3,098 ยูนิต และร้านค้า 18 ยูนิต ราคาขาย 1.2 ล้านบาททุกยูนิต หรือเฉลี่ย ตร.ม.ละกว่า 46,000 บาท ห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 26 ตร.ม. (ทั้งนี้ หากรวมทั้ง 2 โครงการ บริษัทมีการเปิดห้องชุดออกสู่ตลาด 8,098 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการเกือบ 10,000 ล้านบาท)

          “รีเจ้นท์ โฮม ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และฟังก์ชันใช้สอยภายในห้องชุดให้สอดรับและตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยของพื้นที่ส่วนกลางให้มากขึ้น เช่น พื้นที่ Co-working Space เพื่อรองรับการทำงานของลูกค้าที่ทำงานแบบ Work from Home พื้นที่สวนส่วนกลางและ jogging track ส่วนลิฟต์โดยสารก็เลือกใช้ของโอทีสหรือยี่ห้ออื่นที่เทียบเท่า สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของเฮเฟเล่”

          สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ “รีเจ้นท์ โฮม” ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า นางสาวปรารถนา กล่าวว่า ห้องชุดของแบรนด์รีเจ้นท์เป็นราคาที่จับต้องได้ ราคาค่าผ่อนก็ใกล้เคียงกับราคาค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ โดยเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 5,000-6,000 บาทเท่านั้น โดยห้องชุดทุกยูนิตเปิดขายราคาเดียว 1.2 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้กลุ่มคนซื้อที่มีรายได้น้อยไปจนถึงรายได้ระดับปานกลาง ที่อยู่ในช่วงวัยเริ่มต้นทำงาน หรือกำลังสร้างครอบครัวใหม่ สามารถจองซื้อและผ่อนดาวน์ได้ง่าย

          นอกจากนั้น ยังเพิ่มโอกาสให้กับผู้ที่มองเรื่องการลงทุน คอนโดฯ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เงินงอกเงยชนะเงินเฟ้อ ได้ผลตอบแทน 6-7%

          ด้าน นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดคอนโดฯ ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 ค่อนข้างมาก ทำให้มีห้องชุดเหลือขายอยู่ในตลาดกรุงเทพฯประมาณ 40,000-50,000 ยูนิต ขณะที่ราคาสินค้าที่เหลือขายอยู่ในตลาดเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง จึงเป็นโอกาสของกลุ่มรีเจ้นท์ฯ ที่พัฒนาคอนโดฯ บีโอไอขายในราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อยูนิต สามารถตอบโจทย์และรองรับความต้องการของลูกค่ากลุ่มนี้ได้

          “กลุ่มลูกค้าผู้ปกครอง ที่ซื้อห้องชุดให้บุตรหลานไว้ศึกษาในกรุงเทพฯ ก็มีสัดส่วนประมาณ 20% เพราะในแต่ละปีจะมีนักศึกษาจบใหม่ทั่วประเทศเข้ามาทำงานใน กทม.ประมาณ 1 แสนคน รวมถึงกลุ่มข้าราชการวัยเกษียณ ที่นำเงินออมมาซื้อคอนโดฯ เพื่อลงทุนแทนการนำเงินไปฝากธนาคารฯ”

          สำหรับแผนธุรกิจ วางเป้าพัฒนาคอนโดฯ ใหม่ปีละ 10,000 ยูนิต โดยครึ่งปีหลังนี้จะเปิดตัวใหม่เพิ่มอีก 2-3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรีเจ้นท์โฮม ประชาชื่น, โครงการรีชพหลโยธิน 52 เฟส 2 ราคาขายต่ำกว่า 1 ล้านบาท และโครงการเทอร่า เรสซิเดนซ์ เฟส 2 อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย