ดึงเศรษฐีนอกได้วีซ่า5ปี RML-NOBLEเล็งกวาด

          RML-NOBLE-ANAN รับโชคมาตรการให้วีซ่า 5 ปีครอบครัว ต่างชาติขนเงินลงทุนในไทย 1 ล้านดอลลาร์ “กรณ์ ณรงค์เดช” รับตรงกลุ่ม RML มั่นใจทำต่างชาติตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน หนุนอีก ชี้อสังหาระดับบนยอดดี สต๊อกเกลี้ยง คนอยากใช้เงิน รับเทคโนโลยี เสมือนจริงขายลักซ์ชัวรี่ได้ เล็งเปิดโครงการเพิ่มปลายปีสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีฐานลูกค้าต่างชาติ กำลังน่าสนใจจากการ เปิดประเทศ เสริมด้วยข่าวดี เมื่อล่าสุด คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติหลักการในโครงการ Flexible Plus Program ซึ่งเป็นโครงการที่จะดึงต่างชาติเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจไทย

          โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะเข้าต้องลงทุนในประเทศไทย ในมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี ในสินทรัพย์ทั้งอสังหาริมทรัพย์ตามสิทธิของชาวต่างชาติที่พึงได้รับ การลงทุนในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด และลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น หุ้นสามัญ หุ้นกู้ หรือ หน่วยลงทุน

          ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการสามารถขอรับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ในราชอาณาจักรได้ หรือ ได้รับ บัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) รวมถึง คู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีอายุไม่เกิน 20 ปี สามารถได้รับวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงาน (Non-Immigrant Visa) มีระยะเวลาคราวละ 5 ปี

          RML ตรงกลุ่มต่างชาติ

          นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวนับเป็นผลบวกกับ RML อย่างมาก เนื่องจากตลาด อสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเป็นที่ต้องการของต่างชาติ จะเห็นได้ว่า แต่ละโครงการมีต่างชาติเต็มเพดานในการซื้อทั้งสิ้น ดังนั้น การที่ไทยเปิดให้วีซ่า สำหรับผู้ที่ลงทุนในไทยในสินทรัพย์ตามที่กำหนดมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแลกกับสิทธิในการเข้าอยู่ในประเทศไทย 5 ปี นั้น จะทำให้ต่างชาติตัดสินใจซื้อโครงการของบริษัทมากขึ้นได้ ประกอบกับการเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายนนี้ ก็จะทำให้ต่างชาติเดินทางได้สะดวก

          อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จกับการขายอสังหาริมทรัพย์ในสต็อกค่อนข้างมาก ทำให้ขณะนี้สต๊อกหมดแล้ว หลังจากที่บริษัท ได้จัดทำฟีเจอร์ภาพเสมือนจริง (virtual) เพื่อขาย ออนไลน์ ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ในการขายอสังหาริมทรัพย์ ลักซ์ชัวรี่ผ่าน Virtual ที่บริษัทได้รับการตอบรับที่ดี ดังนั้นจะเดินหน้าเรื่องออนไลน์ในการพัฒนาโครงการ ใหม่ๆ ด้วย

          “INVENTORY ของเราหมดแล้ว ช่วงโควิดเคลียร์ไปเยอะมาก พวกออนไลน์ Virtual เข้ามา ช่วยให้ปิดยูนิตใหญ่ได้ จริงๆ แล้วโควิดไม่ได้กระทบกับตลาดบนมากนัก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มีอำนาจการจ่ายเงินสูง เพื่อนฝูงไม่ได้ไปเทียวต่างประเทศ ก็หันมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าแบรนด์เนม นาฬิกา รถ อสังหาอยู่แล้ว แต่พอเปิดประเทศก็จะเป็นเรื่องเพราะบริษัทจะได้ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น”

          โดยบริษัทกำลังวางแผนที่จะเปิดโครงการใหม่อีก 2-3 โครงการในช่วงปลายปีนี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

          NOBLE-ANAN ได้ด้วย

          ด้านนายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า การเปิดวีซ่าให้ต่างชาติที่ลงทุนไทยในระยะเวลา 5 ปีจะเป็นผลบวกกับอสังหาริมทรัพย์และบริษัท เพราะมี ชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งที่อยากได้ long term visa และ work permit

          ทำให้คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมขาย น่าจะขายออกไปได้ แต่ระดับราคาที่กำหนดไว้ 1 ล้านดอลลาร์ จะสูงไปหน่อยหนึ่งสำหรับกำลังซื้อปกติที่อยู่ประมาณ 5-10 ล้านบาท น่าจะพิจารณาให้กำหนดวงเงินในการลงทุนขั้นต่ำ ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ 1 ล้านดอลลาร์ตอนนี้

          ขณะที่นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN กล่าวว่า การเปิดวีซ่าระยะยาวให้ต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในไทยที่ระดับ 1 ล้านดอลลาร์ สหรัฐนั้น เป็นการเน้นกลุ่มคนมีเงิน ซึ่งในส่วนของบริษัทมีคอนโดในระดับราคา 10-20 ล้านบาทด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้เยอะมาก

          อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะเปิดประเทศ ซึ่งทำให้การขายอสังหาริมทรัพย์ให้กับต่างชาติง่ายขึ้น โดยล่าสุดก็มีเอเจนต์เริ่มติดต่อมาทางบริษัทแล้ว เพื่อที่จะเสนอขายอสังหาให้กับลูกค้าต่างชาติ มองว่า สถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะหลังเปิดประเทศเดือนพฤศจิกายน โดยบริษัทผ่านจุดต่ำสุดไป เรียบร้อยแล้ว

          นอกจากนี้ยังเชื่อว่ารัฐบาลยังคงจะออกแพ็กเกจ เดินหน้ากระตุ้นอสังหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายเพดานต่างชาติซื้อคอนโด การซื้อแนวราบ ตลอดจนการ กระตุ้นอสังหาระดับ MASS หรือประชาชนทั่วไป

ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น