เอกฉันท์กนง.ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1.25% ต่อปี

01 ธ.ค. 2565 264 0

          สัญญาณแรงศก..ฟื้น-จับตาเงินเฟ้อติดลมบนเกินคาด

          กนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.25% ต่อปี ประเมินปีนี้เศรษฐกิจในประเทศโตเท่ากับก่อนเกิดโควิดแล้ว 3.2% ปี 2566 คาดโต 3.7% หวั่นเงินเฟ้อสูงนานเกินคาด

          นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนงวันที่ 30 พ.ย. 2565 มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% จาก 1.00% เป็น1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ภาคท่องเที่ยวและบริโภคภาคเอกชนเป็นแรงส่งสำคัญในระยะต่อไป การทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยยังเป็นแนวทางดำเนิน  นโยบายที่สอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

          “เศรษฐกิจไทยปี 2565 มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.2% ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 3.3% ขณะที่ปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว ได้ 3.7% ลดลงลงจากจากเดิมเดิมที ที่ 3.8% และปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% โดยเศรษฐกิจมีสัญญาณกลับมาฟื้นตัวได้เท่ากับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 แล้วในช่วงสิ้นปี 2555 นี้” นายปิติกล่าว

          ทั้งนี้ การท่องเที่ยวองเที่ยวฟื้นตัวฟื้น ชัดเจนสะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าปี 2565 จะอยู่ที่ 10.5 ล้านคน จากคาดการณ์ารณ์เดิมเดิมที่ ที่ 9.5 ล้านคน และปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว22 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มกลับมาช่วงปลายปี 2566

          ส่วนการบริโคคเอกชนยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยปี 2565 คาดว่าขยายตัวได้ 6.1% และปี 2566 ที่ 3.4%

          อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามเมแนว แนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนสูงและอาจชะลอตัวมากกว่าที่คาด และความต่อเนื่องของการฟื้นตัวนตัวขอของภาคการท่องเที่ยว โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออก ในปี2565 จะขยายตัวได้ 7.4% ลดลงจากเดิมคาดไว้ที่ 8.2% ขณะที่ปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวได้ 1% จากเดิมคาดไว้ที่ 1.1%

          นายปิติ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-3% ได้ช้าลงจากเดิมที่คาดว่าช่วงไตรมาส 2/2566 เป็นไตรมาส 3/2566 และมีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการครั้งก่อน จากราคาพลังงานในประเทศ โดยเฉพาะผลจากมาตรการรัฐในการช่วย  เหลือราคาพลังงานที่จะสิ้นสุดลง โดยในปี 2565 คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไป จะอยู่ที่ 6.3% ปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 3% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 2.6%

          สำหรับการจัดเก็บภาษีขายหุ้น 0.11% ในปี 2566 เรื่องนี้มีการพูดคุยมานานในวงกว้าง ยอมรับว่าผลกระทบก็มีบ้าง แต่เป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้นจากการปรับโครงสร้าง ไม่ได้เป็นผลกระทบรุนแรงต่อตลาดทุน รวมถึงเงินทุนเคลื่อนย้าย

          โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าแล้วกว่า 5,000 ล้าน เหรียญสหรัฐ ดังนั้น ต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับกำไรจากหุ้นที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ก็เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายในภาพรวม

 

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย