4หุ้นอสังหาโตสวนโควิดORI-AP-SC-SIRIแกร่ง

18 Nov 2020 807 0

          สแกน 4 หุ้นอสังหาโตสวนวิกฤติ โควิด ORI-AP-SC-SIRI ไตรมาส 3/2563 โชว์ฟอร์ม เด่นกำไรเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันปีก่อนและจากไตรมาสก่อน ผลจากการโอนโครงการเพิ่มขึ้น ด้าน PSH กางแผนปี 2564 เล็งเปิดโครงการใหม่ 35 โครงการ มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 10-15% จากการสำรวจผลประกอบการไตรมาส 3/2563 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ 10 บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ พบว่ามี 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI, บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC, บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI มีผลการดำเนินงานเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันปีก่อนและจากไตรมาสก่อน

          โดย ORI สามารถทำกำไรสุทธิที่ 717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 687 ล้านบาท และเติบโต 1.4% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 707 ล้านบาท ส่วน SC สามารถทำกำไรสุทธิที่ 683 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 440 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 49.8% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิที่ 456 ล้านบาท

          ขณะที่ AP สามารถทำกำไรสุทธิที่ 1,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 619 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 19.3% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,215 ล้านบาท และ SIRI สามารถทำกำไรสุทธิที่ 764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 451 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 196.1% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 258 ล้านบาท

          โครงการแนวราบยังเติบโตดี

          ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ว่า บริษัทต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดโครงการใหม่กันอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านพ้นมาตรการ Lockdown ในไตรมาส 3/2563 โดยส่วนใหญ่ยังคงเน้นเปิดโครงการแนวราบ (เติบโต 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ เติบโต 119% จากไตรมาสก่อน) สอดคล้องกับโมเมนตัมในช่วงครึ่งปีแรกปี 2563 ในขณะที่ยังระมัดระวังในการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ส่งผลให้มูลค่าโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในช่วง 9 เดือนปี 2563 ลดลงถึง 78% จากช่วงเดียวกันปีก่อน)

          ทั้งนี้ยอดเปิดโครงการแนวราบใหม่ที่เติบโตอย่างแข็ง แกร่งในช่วงไตรมาส 3/2563 ส่วนใหญ่มาจากโครงการของ AP และ LH ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่เน้นทำโครงการคอนโดมิเนียมอย่างเช่น ANAN และ LPN ยังคงไม่เปิดโครงการใหม่เพิ่มในช่วงไตรมาส 3/2563 และเน้นจัดแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อระบายสต๊อกที่ยังค้างอยู่ออกไปก่อน

          อย่างไรก็ดีแนะนำให้ใช้กลยุทธ์การเลือกหุ้นเป็นรายตัว โดยมุ่งไปที่หุ้นที่เน้นโครงการแนวราบระดับกลาง-สูง หรือหุ้นที่มี Backlog โครงการคอนโดมิเนียมอยู่ในระดับสูง ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ Neutral โดยเลือก AP (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.70 บาท) LH (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท) และ SPALI (แนะนำ  ”ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 19.60 บาท) เป็นหุ้นเด่น

          PSH ปีหน้าเปิด 35 โครงการ

          นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ในเครือบริษัท พฤกษา โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าปี 2564 รายได้เติบโตราว 10-15% จากปีนี้ที่ประมาณการไว้ราว 3.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมียอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 2.56 หมื่นล้านบาท คาดจะรับรู้ในปีนี้ราว 7 พันล้านบาท และปีหน้ารับรู้อยู่ที่ 9 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 ตลอดจนมีโรงพยาบาลวิมุต เข้าเสริม ซึ่งคาดปีหน้าได้จากโรงพยาบาลจะอยู่ที่ราว 1% ของสัดส่วนรายได้รวมโดยในปี 2564 บริษัทมีแผนโครงการใหม่ 30-35 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น คอนโด 5-7 โครงการ มูลค่า 7-8 พันล้านบาท ที่เหลือเป็นโครงการแนวราบ ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์ญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนก่อสร้างคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีก 1 โครงการ (รวมในแผนเปิดโครงการปี 64 แล้ว) คาดชัดเจนภายในปีนี้

          ด้านความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาลวิมุตยังเป็นไปตามแผนงาน คาดจะเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2564 โดยในช่วงแรกจะเปิดให้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) เต็มรูปแบบ และให้บริการผู้ป่วยใน (IPD) ราว 100 เตียง รวมทั้งคาดเปิดให้บริการเตียงผู้ป่วยในเต็มรูปแบบภายใน 3 ปี

Reference:

Click icon to remove from or add to favorite list
Click to choose and click "Compare" button